พร้อมแล้ว! กาชาดจับมืออย.จัดลงทะเบียนออนไลน์กัญชา

พร้อมแล้ว! กาชาดจับมืออย.จัดลงทะเบียนออนไลน์กัญชา

ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ รพ.จุฬาลงกรณ์ กล่าวว่า การแจ้งครอบครองกัญชาสำหรับผู้ป่วยโดยไม่ต้องรับโทษจะสิ้นสุดตามกฎหมายในวันที่ 21 พ.ค.นี้ หากยังไม่มาแจ้งก็จะมีความผิดตามกฎหมาย และเพื่อความสะดวก รพ.จุฬาฯร่วมกับสภากาชาดไทยและภาคประชาชนได้พัฒนาระบบลงทะเบียนการใช้กัญชาทางอินเตอร์เน็ตเพื่อผู้ป่วยขึ้น คือ www.cbd-oss.org

ทั้งนี้ในเว็บไซต์ดังกล่าวจะมีการเก็บข้อมูลต่างๆ อย่างบัตรประชาชนและใบรับรองแพทย์ของผู้ลงทะเบียนเป็นความลับ 

หลังจากลงทะเบียนแล้วจะมีการส่งข้อมูลให้กับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อผ่อนปรนและเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจ ส่วนใครที่เคยแจ้งครอบครองกับ อย.แล้ว ก็มาลงทะเบียนทางอินเตอร์เน็ตได้เพื่อจะได้เป็นการเก็บข้อมูลว่ามีผู้ป่วยที่ใช้กัญชาทั่วประเทศกี่คน

นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการ อย.อธิบายว่าการลงทะเบียนออนไลน์นี้ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ที่เตรียมเอกสารไม่ทัน โดยหลังจากวันที่ 21 พ.ค.ทางอย.จะมีการตรวจสอบหลักฐานการครอบครองว่าครบหรือไม่ และประสานกับองค์การเภสัชกรรมเพื่อจ่ายสารสกัดกัญชาให้ผู้ป่วยที่จำเป็นต้องใช้ ด้าน ศ.กิตติคุณ นพ.วงศ์กุลพัทธ์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา กรรมการสภากาชาดไทยระบุว่า จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารสภากาชาดไทยในวันที่ 15 – 16 พ.ค. นี้ และจะนำเรื่องส่วนร่วมในการพัฒนากัญชาเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตคนไทยเข้าที่ประชุมด้วย

ต่อมาประมาณเวลา 18.30 น. หลังการชุมนุม มีคนนำคลิปช่วง พลเรือตรี เทิดเกียรติฯ พูดคุยกับชาวบ้าน ไปโพสต์ลงในเฟซบุ๊คและส่งต่อ ๆ กันไป นาวาตรี บัญชา ฯ จึงได้โทรประสานพูดคุยกับแกนนำชาวบ้าน เช่น นายนิรันดร์ หยังปาน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 2 ต.ราไวย์, นายสนิท แซ่ซั่ว (คนที่ปรากฏพูดกับ พลเรือตรี เทิดเกียรติฯ ในคลิป) นายชาติ (ตัวแทนชาวเลราไวย์) รวมทั้งตัวแทนพีมูฟทั้งในภูเก็ตและที่กรุงเทพฯ เช่น นายสินชัย รู้เพราะจีน ตัวแทนชุมชนประชาอุดม (ผู้ประสานงานพีมูฟภูเก็ต) , นางปรีดา คงแป้น คณะกรรมการแก้ปัญหาที่ดิน ที่ทำกิน และพื้นที่ทางจิตวิญญาณ ของชุมชนชาวเลและกรรมการและเลขานุการ มูลนิธิชุมชนไท (พีมูฟที่กรุงเทพฯ) 

ให้ทำความเข้าใจกับชาวบ้านและกลุ่มพีมูฟ ให้เข้าใจเจตนาคำพูดที่ดีต่อชาวบ้านและแท้จริงของท่าน รอง ผอ.รมน.จังหวัดภูเก็ต (ทหาร) ตามข้างต้น (ข้อ4) และให้เข้าใจถึงหน้าที่ของ กอ.รมน. ที่มีความตั้งใจจริงในการช่วยเหลือชาวบ้านทุกกลุ่มที่เดือดร้อนจากความไม่เป็นธรรมของหน่วยงานรัฐและกลุ่มนายทุนผู้มีอิทธิพลต่าง ๆ ซึ่งแกนนำชาวบ้านเขาก็บอกว่าชาวบ้านเข้าใจในเจตนาคำพูดของท่านแล้ว รวมทั้งนาวาตรี บัญชา ฯ ได้โทรพูดคุยกับ โจ้ สปอตไลต์ เจ้าของเพจดังในภูเก็ต ที่โพสต์ต่อทางเพจเฟสบุ๊ค ให้เข้าใจเจตนาที่แท้จริงในคำพูดของ รอง ผอ.รมน.จังหวัดภูเก็ต (ทหาร) (ตามข้อ4) ซึ่งคุณโจ้ก็เข้าใจ และจะพูดให้แฟนเพจเข้าใจด้วย

หนุ่มเชียร์ลูกค้าแทงกันดับกลางซอยบางลา หลังชกต่อยแล้วสู้ไม่ได้

เมื่อเวลา 21.51 น. วันที่ 13 พ.ค.62 เจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์วิทยุสภ.ป่าตอง ได้รับแจ้งว่า มีเหตุทะเลาะวิวาทมีคนถูกแทงได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย เหตุเกิดที่บริเวณหน้าร้านแห่งหนึ่งภายในซอยบางลา ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ขอให้เดินทางไปตรวจสอบด้วยด้วย หลังจากรับแจ้ง พ.ต.ท.ปฏิวัติ ยอดขวัญ สว.(สอบสวน) สภ.ป่าตอง จึงรายงานให้ ผู้บังคับบัญชา ทราบ ก่อนเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.อโณทัย จินดามณี ผกก.สภ.ป่าตอง พ.ต.อ.ประวิทย์ เอ้งฉ้วน ผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.ท.นิกร ชูทอง รองผกก.สส.สภ.ป่าตอง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต ชุดสืบสวน สภ.ป่าตอง และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 8

ที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัดภูเก็ต มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศเดินท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากกำลังมุงดูเหตุการณ์อยู่ ที่พื้นถนนหน้าร้านดังกล่าวพบร่าง นายอนุเชษฐ์ ชันวิจิตร อายุ 42 ปี ที่อยู่ 6/1 ม.8 ต.ควนปริง อ.เมือง จ.ตรัง สภาพนอนหงาย สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีดำ สวมกางเกงสามส่วนสีน้ำตาล ถูกแทงเข้าบริเวณท้องด้านขวา 1 แผล นอนจอมกองเลือด เจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตประจำจุดป่าตอง และชาวบ้านกำลังให้การช่วยเหลือปั๊มหัวใจก่อนนำส่งโรงพยาบาลป่าตอง เพื่อให้แพทย์ช่วยเหลืออย่างด่วน ต่อมาผู้บาดเจ็บทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา

จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ตายเป็นเด็กเชียร์แขกอยู่ภายในซอยบางลา ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้ยืนเชียร์แขกตามปกติ จากนั้นได้มีปากเสียงกับผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อในภายหลัง นายปกรณ์ ป้องสีดา อายุ 32 ปี ซึ่งเป็นเด็กเชียร์แขกอยู่ภายในซอยดังกล่าวเช่นกัน ระหว่างนั้นทั้งสองคนมีปากเสียงและชกต่อยกัน แต่ผู้ก่อเหตุสู้ไม่ได้จึงใช้อาวุธมีดที่พกติดตัวมาแทงเข้าบริเวณท้อง 1 ครั้ง ก่อนหลบหนีไป

อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในซอยตลอดเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี และมีการสอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุ รวมทั้งได้นำแฟนสาวของผู้ก่อเหตุมาสอบปากเช่นกัน จนทราบว่า ผู้ก่อเหตุได้หลบหนีออกจากพื้นที่จังหวัดภูเก็ตและอยู่ในเขตจังหวัดพังงา

ต่อมา พ.ต.อ.ประวิทย์ เอ้งฉ้วน ผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต และ พ.ต.ท.นิกร ชูทอง รองผกก.สส.สภ.ป่าตอง ได้ประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพังงาให้สกัดจับ ระหว่างนั้นได้ให้แฟนผู้ก่อเหตุติดต่อเพื่อให้กลับมามอบตัว จากนั้นผู้ก่อเหตุตัดสินใจกลับมามอบตัวแต่ระหว่างทางที่เดินทางกลับได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจพังงาจับกุมได้ในที่สุด และได้ควบคุมตัวกลับมาดำเนินคดีที่ สภ.ป่าตอง